เป็นเทคนิคการพิมพ์ด้วยสีพิมพ์เชื้อน้ำสามารถแบ่งได้ตามคุณสมบัติของแป้งพิมพ์ที่นำมาใช้ผสมสีดังนี้
สีจม เนื้อสีจะมีความโปร่งบาง ละเอียดสามารถซึมสู่เนื้อผ้าจนถึงเส้นใยของผ้า ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผ้าสีอ่อน
สียาง เป็นสีที่มีความหนาแน่นของเนื้อสี มีส่วนผสมของยาง ทำให้เกิดความยืดหยุ่น ไม่แตกตามริ้วผ้า และเป็นเงามัน ให้สีที่สด เนื้อสีจะจับอยู่บนเส้นใย จึงเหมาะสำหรับผ้าทุกสี พิมพ์ได้ทั้งผ้าสีอ่อนและสีเข้ม การระบายอากาศไม่ดีเท่าสีจม จึงควรใช้ในปริมาณลายที่น้อย
สีลอย เนื้อสีจะมีความหนาแน่นมากกว่าสีจม แต่จะมีลักษณะแห้งกระด้างกว่าสียาง เนื้อสีจะเกาะอยู่บนเส้นใยของผ้า เมื่อลองดึงทดสอบความยืดหยุ่น จะสังเกตุเห็นถึงเนื้อสีที่แตกออกจากกัน เหมาะสำหรับทำเสื้อเก่า วินเทจน์ สีประเภทนี้จะมีความทึบแสงจึงเหมาะที่จะนำไปสกรีนลงผ้าสีเข้ม
สีนูน มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดการฟูของเนื้อสี เมื่อนำไปอบด้วยความร้อน ทำให้ลวดลายมีความหนานูนขึ้นมา นิยมใช้เมื่อต้องการให้เกิดผิวสัมผัสที่มีความนูนเป็นสามมิติ
สีสะท้อนแสง เรืองแสง ใช้สกรีนลงบนเสื้อที่ต้องการให้เห็นเด่นชัดในเวลากลางคืน หมึกเรืองแสงมี 2 ชนิด fluorescent จะให้คุณสมบัติในการเรืองแสงในที่มืดและสว่าง ภายใต้หลอดไฟนีออน เรียกว่า สีสะท้อนแสง ส่วน phosphorescent ลวดลายที่พิมพ์จะเรืองแสงเฉพาะในความมืดเท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางวัน เรียกว่า สีเรืองแสง
หน้าที่เข้าชม | 6,692 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 4,811 ครั้ง |
เปิดร้าน | 15 พ.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ก.ย. 2568 |